การเกิดการแตกเองของกระจกนิรภัยในประตูและหน้าต่างส่วนใหญ่นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก โดยทั่วไปแล้ว กระจกนิรภัยมีโอกาสเกิดการแตกเองประมาณ 3-5% และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้คนได้รับบาดเจ็บหลังจากกระจกแตก ตราบใดที่เราสามารถตรวจจับและจัดการได้อย่างทันท่วงที เราก็สามารถลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ต่ำลงได้
วันนี้เรามาพูดคุยกันว่าครอบครัวทั่วไปควรป้องกันและรับมือกับกระจกประตูและหน้าต่างแตกเองอย่างไร
01. ทำไมกระจกจึงเกิดรอยบุบเอง?
การแตกเองของกระจกนิรภัยสามารถอธิบายได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่กระจกนิรภัยแตกเองโดยอัตโนมัติโดยไม่มีผลกระทบจากภายนอกโดยตรง สาเหตุเฉพาะเจาะจงคืออะไร?
ประการหนึ่งคือการเกิดรอยตำหนิบนกระจกที่เกิดจากตำหนิที่มองเห็นได้ เช่น หิน อนุภาคทราย ฟองอากาศ สิ่งเจือปน รอยบาก รอยขีดข่วน ขอบ ฯลฯ สำหรับการเกิดรอยตำหนิบนกระจกประเภทนี้ การตรวจจับทำได้ค่อนข้างง่าย จึงสามารถควบคุมได้ในระหว่างการผลิต
ประการที่สองคือแผ่นกระจกเดิมมีสิ่งเจือปนอยู่ นั่นคือ นิกเกิลซัลไฟด์ ในกระบวนการผลิตกระจก หากฟองอากาศและสิ่งเจือปนไม่ถูกกำจัดออกจนหมด อาจขยายตัวอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดการแตกร้าวภายใต้การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความดัน ยิ่งมีสิ่งเจือปนและฟองอากาศภายในมากเท่าใด อัตราการแตกร้าวก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
ประการที่สามคือความเครียดจากความร้อนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือที่เรียกว่าภาวะกระจกแตก (thermal burst) อันที่จริง การถูกแสงแดดจะไม่ทำให้กระจกนิรภัยแตกเอง อย่างไรก็ตาม การสัมผัสกับอุณหภูมิสูงภายนอก เครื่องปรับอากาศภายในอาคารที่มีลมเย็นพัดผ่าน และความร้อนที่ไม่สม่ำเสมอทั้งภายในและภายนอก อาจทำให้เกิดภาวะกระจกแตกเองได้ ในขณะเดียวกัน สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น พายุไต้ฝุ่นและฝนตก ก็สามารถทำให้เกิดภาวะกระจกแตกได้เช่นกัน
02. ควรเลือกกระจกประตูและหน้าต่างอย่างไร?
สำหรับการเลือกใช้กระจก ขอแนะนำให้ใช้กระจกนิรภัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน 3C และทนต่อแรงกระแทกได้ดี หลายคนอาจไม่ทันสังเกต แต่ที่จริงแล้ว การมีโลโก้ 3C ก็ถือเป็นการบ่งบอกระดับหนึ่งแล้วว่ากระจกนั้นได้รับการรับรองว่าเป็นกระจกที่ “ปลอดภัย”
โดยทั่วไปแล้ว แบรนด์ประตูและหน้าต่างไม่ได้ผลิตกระจกเอง แต่ประกอบกระจกโดยการซื้อวัตถุดิบกระจกเป็นหลัก แบรนด์ประตูและหน้าต่างขนาดใหญ่มักเลือกใช้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น China Southern Glass Corporation และ Xinyi ซึ่งมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่สูงมาก กระจกคุณภาพดีไม่ว่าจะมีความหนา ความเรียบ หรือการส่งผ่านแสงมากเพียงใด ก็ยิ่งมีคุณภาพดีกว่า หลังจากการอบชุบกระจกเดิม อัตราการเกิดสนิมจะลดลง
ดังนั้นเมื่อเลือกประตูและหน้าต่าง เราควรใส่ใจกับแบรนด์และพยายามเลือกแบรนด์ประตูและหน้าต่างที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาด้านคุณภาพของประตูและหน้าต่าง
03. ป้องกันและรับมือภาวะประตู-หน้าต่างพังเองอย่างไร?
วิธีแรกคือการใช้กระจกลามิเนต กระจกลามิเนตคือผลิตภัณฑ์กระจกคอมโพสิตที่ประกอบด้วยกระจกสองแผ่นหรือมากกว่า โดยมีฟิล์มโพลิเมอร์อินทรีย์ชั้นกลางประกบอยู่ระหว่างแผ่นกระจกอย่างน้อยหนึ่งชั้น หลังจากการอัดขึ้นรูปด้วยอุณหภูมิสูงแบบพิเศษ (หรือการปั๊มสุญญากาศ) และกระบวนการขึ้นรูปด้วยแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูง กระจกและฟิล์มกลางจะถูกยึดเข้าด้วยกัน
แม้กระจกจะแตก แต่เศษกระจกก็ยังคงติดอยู่กับฟิล์ม และพื้นผิวของกระจกที่แตกจะยังคงสะอาดและเรียบเนียน วิธีนี้ช่วยป้องกันการเกิดเศษกระจกทิ่มแทงและการตกหล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยส่วนบุคคล
วิธีที่สองคือการติดฟิล์มโพลีเอสเตอร์ประสิทธิภาพสูงลงบนกระจก ฟิล์มโพลีเอสเตอร์ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อฟิล์มนิรภัยกันสนิม สามารถยึดติดกับเศษกระจกเพื่อป้องกันการกระเด็นเมื่อกระจกแตกจากสาเหตุต่างๆ ช่วยปกป้องบุคลากรทั้งภายในและภายนอกอาคารจากอันตรายจากการกระเด็นของเศษกระจก
ติดต่อเรา
ที่อยู่: เลขที่ 10 ซอย 3 ถนนเทปเป่ยตะวันตก เขตเศรษฐกิจกวางฮั่น
เขตพัฒนา เมืองกว่างฮั่น มณฑลเสฉวน 618300 สาธารณรัฐประชาชนจีน
โทร: 400-888-9923
อีเมล:scleawod@leawod.com
เวลาโพสต์: 24 ส.ค. 2566